บทเรียนจากประชาธิปัตย์
ผมเขียนแนะนำให้ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ รัฐมนตรีพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รีบออกมา “ขอโทษประชาชน และสังคม” ในคอลัมน์นี้วันจันทร์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบในฐานะรองนายกฯ และหัวหน้าพรรค กรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงหลายคน แต่กว่า คุณจุรินทร์ จะออกมากล่าวคำขอโทษในเช้าวันอังคาร เหตุการณ์ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้ว ทุกอย่างมันไปไกลแล้ว แถมยังมีการสาวไส้กันเองทั้งชู้ ทั้งกิ๊กในกลุ่มไลน์ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ให้ฉาวหนักขึ้นไปอีก
การออกมาขอโทษของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ คงช่วยผ่อนสถานการณ์ให้เบาลงได้ แต่จะได้ผลหรือไม่ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ส.ก. จะเป็นเครื่องพิสูจน์
คุณจุรินทร์ ได้แถลงข่าวพร้อมกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เช้าวันอังคารว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกราบขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในฐานะหัวหน้าพรรค ขอเรียนว่า ตนมีส่วนสำคัญนำนายปริญญ์เข้าพรรค แม้กระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค และต้องลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่ก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้า หนีไม่พ้นต้องรับผิดชอบ หนีไม่พ้นต้องร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด
คุณจุรินทร์ ได้กล่าวยํ้าว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจนต่อต้านการคุกคามทางเพศ พรรคมีความชัดเจนในการต่อต้านการใช้ความรุนแรง เด็ก สตรี และครอบครัว ต่อต้านการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศ พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง ขอเรียนให้ทราบเพื่อความสบายใจ พรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่ากระบวนการจะทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง ที่สำคัญพรรคจะไม่เพิกเฉยดูดายต่อสถานการณ์นี้
คุณจุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่จะดำเนินการคือ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น แม้นายปริญญ์จะลาออกไปแล้วก็ตาม คณะกรรมการจะตรวจสอบข้อเท็จจริง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาและเยียวยา รวมถึง มาตรการป้องกัน โดยตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้ามาทำหน้าที่ในพรรค โดยมอบหมายให้ คุณรัชดา ธนาดิเรก เป็นประธาน และจะตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบโพสต์ในไลน์ของพรรค มอบให้ คุณนราพัฒน์ แก้วทอง เป็นประธาน คุณจุรินทร์ ยังได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ ด้วย
คุณจุรินทร์ ได้ตอบคำถามนักข่าวถึงกระแสเรียกร้องให้ หัวหน้าพรรค และ กรรมการบริหารพรรค แสดงความรับผิดชอบว่า ได้ไตร่ตรองสองแนวทาง แต่สุดท้ายก็มีสองมุม หากลาออกแล้วทิ้งปัญหาไว้ก็จะเป็นการหนีปัญหา นั่นคือความไม่รับผิดชอบ เราต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วง ไม่ใช่ทิ้งปัญหาให้คนรุ่นหลัง ก็ดีแล้วครับ คนรุ่นหลังคงไม่มีใครกล้าไปแก้ปัญหาของคนรุ่นใหญ่หรอก แต่ประเด็นที่จะเป็นปัญหาหนักอกต่อไปของ คุณจุรินทร์ ก็คือ การทะเลาะกันในไลน์กลุ่มของผู้บริหารพรรคที่เป็นผู้หญิงที่มีการกล่าวหากันรุนแรงมาก จะจบลงแบบไหน
ก็เป็นอีกบทเรียนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์
จากนี้ไปก็หวังว่า พรรคประชาธิปัตย์จะแก้ตัว ด้วยการ สร้างผลงานแก้ปัญหาการคุกคามทางเพศให้ชัดเจน เป็นที่พึ่งของสังคมได้ รวมทั้ง การแก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และ ครอบครัว ให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม พรรคประชาธิปัตย์มี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสังกัดเป็นเครื่องมืออยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ยินชื่อกระทรวงนี้ ทั้งที่ปัญหาสังคมของผู้หญิงเด็ก และความรุนแรง มีเป็นข่าวให้เห็นทุกวัน.
