“ศรีสุวรรณ” จ่อยื่น ป.ป.ช. สอบ “บิ๊กป้อม” ฝ่าฝืนจริยธรรมขึ้นป้ายสงกรานต์ไม่ขออนุญาต
“ศรีสุวรรณ จรรยา” จี้ กรมทางหลวง-มหาดไทย เอาผิด “พล.อ.ประวิตร-พปชร.” หลังติดป้ายอวยพรปีใหม่ไม่ขออนุญาต จ่อยื่นสอบ ป.ป.ช. ต่อ ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
วันที่ 14 เมษายน 2565 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมทางหลวงขอให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการแขวงทางหลวงต่างๆ ทั่วประเทศ หลังมีป้ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพลังประชารัฐ ติดอวยพรปีใหม่ 2565 อยู่ตามเสาไฟฟ้าริมถนนสำคัญๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการยืนยันจากแขวงทางหลวงสระบุรีแล้วว่า “ไม่ได้ขออนุญาต”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหนองแค แขวงทางหลวงสระบุรี สำนักงานทางหลวงที่ 11 (ลพบุรี) ทำการเก็บป้ายที่ไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ ทล.1 ระหว่าง กม.95+000 - กม.103+000 เป็นช่วงๆ โดยมีป้ายอวยพรปีใหม่ของ พล.อ.ประวิตร รวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรในบริเวณดังกล่าว
แต่ทว่าป้ายลักษณะดังกล่าวมิได้มีแต่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสระบุรีเท่านั้น หากแต่มีการติดกันในหลายพื้นที่ถนนสายหลัก ทั้งป้ายขนาดเล็กติดเสาไฟฟ้า และป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ ในบริเวณป้ายโฆษณาของเอกชน ซึ่งตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม 2549 จะต้องมีการขออนุญาตการติดตั้งจากผู้อำนวยการทางหลวงเสียก่อน แต่เมื่อไม่ได้มีการขออนุญาต ก็ย่อมเข้าข่ายความผิดตาม ม.38 วรรคสาม แห่งกฎหมายข้างต้น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งการไปยังราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่มีป้ายของ พล.อ.ประวิตร ติดตั้งอยู่ให้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้ายด้วย เพราะป้ายที่ติดตั้งในพื้นที่รัฐและเอกชน โดยเฉพาะป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ จะต้องมีการขออนุญาตจากราชการส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ที่มีป้ายติดตั้งอยู่ด้วย พร้อมกับต้องเสียภาษีป้ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงเสียก่อนด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พัน ถึง 5 หมื่นบาท ตาม ม.35 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้าย 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมว.มหาดไทย ที่จะต้องสั่งการไปยังราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้ายด้วย หากไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ด้วย
นายศรีวุวรรณ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่สำคัญ พล.อ.ประวิตร เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีและ หน.พรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล การกระทำดังกล่าวโดยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมนั้น อาจเข้าข่ายความผิดเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย ซึ่งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะนำความไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในลำดับต่อไป.