“รสนา” ล่องเรือ หาเสียง คลองบางหลวง ยัน 100 วัน หากเป็นผู้ว่าฯ ทำทันที
“รสนา” ล่องเรือ หาเสียงคลองบางหลวง เมินโพลผู้ว่าฯ กทม. ชี้ เสียงคนแค่ 3 พัน แทน 4 ล้านไม่ได้ ยัน 100 วัน หากเป็นผู้ว่าฯ ทำทันที แก้น้ำท่วม-ชำแหละกรุงเทพธนาคม-ไม่ต่อสัญญาสายสีเขียว
วันที่ 2 พ.ค. นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ หมายเลข 7 ลงพื้นที่หาเสียงในชุมชนคลองบางหลวง เขตภาษีเจริญ เพื่อรับฟังปัญหาปากท้องของชาวบ้านในหมู่บ้านศิลปิน นอกจากนี้ ยังมีการล่องเรือตรวจดูน้ำเสีย ภายในคลองภาษี และปัญหาตลิ่งทรุด และการจัดการขยะ จุดที่น่าสนใจในวันนี้ (2 พ.ค.65) นางสาวรสนา ได้พบกับชายสูงอายุ อายุ 67 ปี สะท้อนปัญหาบ้านทรุดตัวที่เกิดจากการตอกเสาเข็มของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ซึ่งแรงสั่นสะเทือน ทำให้บ้านหลังดังกล่าวเอียงตัวลงประมาณ 45 องศา แต่ยังไม่มีการเยียวยา นอกจากนี้ สำนักงานเขตพื้นที่ไม่ได้เข้ามาเหลียวแล ให้เพียงเงินเยียวยา 20,000 บาท เท่านั้น
นางสาวรสนา ให้สัมภาษณ์ เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำเน่าเสีย สาเหตุหลักมาจากการจัดการขยะที่ไม่ได้ผล โดยชาวบ้านยังทิ้งขยะลงในลำคลอง ทำให้เป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ผ่านมา กทม. ไม่สามารถแก้ไขได้ มองว่า หากน้ำใสขึ้นจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะใช้นโยบายที่สอดรับกับประชาชน ยอมรับว่าถ้าไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่ได้เห็นปัญหาที่ซอกหลืบของกรุงเทพฯ เมื่อตัดสินใจมารับใช้คนกรุงเทพฯ เเล้ว จึงอยากยกระดับชีวิตคนกรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม
นางสาวรสนา ระบุว่า ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ใน 100 วันแรก นโยบายที่จะทำได้ทันทีคือแก้ปัญหาน้ำท่วม ฝนแรกของฤดูที่ตกลงมาจะต้องไม่มีน้ำท่วมขัง แม้ว่าปัญหาน้ำท่วมจะเกิดขึ้นซ้ำซาก ไม่เคยมีใครทำได้ แต่ถ้าคิดและบริหารอย่างจริง เชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วมอย่างแน่นอน และนโยบายต่อมาจะรื้อระบบการจัดการขยะ เปิดสัญญาจัดจ้างเอกชนที่เข้ามารับสัมปทานกำขัดขยะให้คนกรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมามีความคลุมเครือ ไม่โปร่งใส ตั้งคำถามว่า “กำจัดขยะอย่างไรจนให้ขยะล้นเมือง”
นางสาวรสนา ย้ำว่านโยบายทุจริตต้องทำอย่างจริงจัง แม้ว่าที่ผ่านมา ไม่มีใครทำให้โปร่งใส โดยเฉพาะการเข้าไปรื้อเเละเปิดโปงสัญญาจ้าง โดย กทม.ถือหุ้นสูงถึง 99.8% ทำไมถึงไม่มีอำนาจดำเนินการ ในเมื่อบริษัทกรุงเทพธนาคมเป็นขุมทรัพย์เงินของ กทม. คนกรุงเทพฯ ต้องมีสิทธิ์ที่จะได้ใช้เงิน เพื่อลบข้อครหาว่าบริษัทกรุงเทพธนาคมเป็นแดนสนธยา
อีกนโยบาย นางสาวรสนา ระบุว่า จะดำเนินการแน่นอน การยกเลิกต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว เนื่องจากเป็นต้นตอของค่ารถไฟฟ้าแสนแพง และคนกรุงเทพฯ ต้องโอดครวญ หากเลือกนางรสนา ยืนยันว่า ดำเนินการทันที นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่จะนำยาฟ้าทะลายโจรมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านทันที
เมื่อถามว่า ผลสำรวจโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลายสำนัก มีนายชัชชาติที่คะแนนนำ โดยนางสาวรสนา ไม่ติดอันดับ นางสาวรสนา มองอย่างไร นางสาวรสนา ตอบว่า ส่วนตัวไม่เชื่อถือโพล เนื่องจากมองว่า เป็นความเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ยังไม่เห็นว่าใช้ปัจจัยใดในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ไม่ได้สะท้อนเสียงของคนกรุงเทพทั้งหมด
“โพลคนเลือกแค่ 3,000 คน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มันไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าโพลจะตรงหรือไม่ตรง อะไรมันก็ไม่แน่นอน ดิฉันเชื่อว่าคนกรุงเทพมีวิจารณญาณ”
นางสาวรสนา ระบุว่า โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งจะมีการปรับกลยุทธ์การหาเสียงให้เข้มข้นมากขึ้น โดยจะเผยแพร่ผ่านคลิปที่พูดถึงการปราบโกงให้มากขึ้น เนื่องจากเอกลักษณ์ของตนตั้งแต่สมัยเป็น ส.ว. คือเรื่องการปราบปรามทุจริต
ส่วนปัญหารถติดที่มีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.แก้ปัญหามากที่สุด นางสาวรสนา ยอมรับว่า เป็นมหากาพย์ของปัญหาและมีความผูกพันกับหลายส่วน ซึ่งปัญหาหลักมาจากการที่กรุงเทพมีถนนน้อย สวนทางกับจำนวนรถ ดังนั้นการแก้ปัญหารถติดเป็นเรื่องที่ยากมาก มองว่า ต้องปรับกลยุทธ์ในการทำผังเมือง ถนนที่แคบจะต้องจำกัดการสร้างอาคาร เพื่อให้รถมีปริมาณเพียงพอ หากตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ จะดำเนินการเพิ่มการสัญจรทางน้ำ รวมไปถึงเรื่อง ล้อรางเรือ
