ห้องภาพดีเจจ๊ะเอ๋บ้านผือ

ศจพ.อำเภอโนนสะอาด เดินหน้าจัดประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน

ศจพ.อำเภอโนนสะอาด เดินหน้าจัดประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อจัดทำแผนการให้ความช่วยเหลือ

  วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลา 09.30 น.  นายชวิศ  ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด ประธานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอโนนสะอาด (ศจพ.อำเภอโนนสะอาด) พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ตัวแทนทีมปฏิบัติการฯ และตัวแทนทีมพี่เลี้ยง ร่วมประชุมขับเคลื่อนการขจัดความยากจนฯ  พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน รวมถึง หาแนวทางวิธีการทำงานร่วมกัน โดยมีประเด็นสำคัญในการประชุมดังนี้รายงานผลการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนฯ อำเภอโนนสะอาด ดังนี้

   1. ครัวเรือนเป้าหมายจากระบบ TPMAP เป้าตั้งต้น 2 ครัวเรือน 4 คน พบปัญหาในมิติความเป็นอยู่ 1ครัวเรือน ส่งมอบให้กองทุนสวัสดิการหมู่บ้านดำเนินโครงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และมิติด้านรายได้ จำนวน 2 ครัวเรือน ส่งมอบให้เกษตรอำเภอ, ปศุสัตว์อำเภอ สนับสนุนให้ความรู้การประกอบอาชีพเสริม
   2. ครัวเรือนที่เพิ่มเติมในระบบ TPMAP จำนวน 10 ครัวเรือน 39 คน พบปัญหาจำแนกรายมิติ ดังนี้
       1) มิติความเป็นอยู่ 7 ครัวเรือน 29 คน แยกเป็น สงเคราะห์ 1 ครัวเรือน พัฒนาได้ 6 ครัวเรือน ส่งมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/กองทุนสวัสดิการหมู่บ้านพิจารณาโครงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
       2) มิติด้านรายได้ จำนวน 7 ครัวเรือน 20 คน แยกเป็น สงเคราะห์ 1 ครัวเรือน พัฒนาได้ 6 ครัวเรือน ส่งมอบเกษตร,ปศุสัตว์,พัฒนาชุมชน,ประมง ส่งเสริมให้ความรู้การประกอบอาชีพเสริม (เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่,ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร)



                3) มิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ จำนวน 1 ครัวเรือน 1 คน
       4) มิติด้านอื่น ๆ (ผู้ป่วยเรื้อรัง) จำนวน 1 ครัวเรือน 3 คน เป็นประเภทสงเคราะห์ ส่งมอบให้ภาคีพัฒนา(สาธารณสุขอำเภอ) ดำเนินการช่วยเหลือ
   3. ครัวเรือนเป้าหมายจากระบบ ThaiQM สำรวจแล้ว จำนวน 1,050 ครัวเรือน พบสภาพปัญหาความเดือดร้อน ดังนี้
     (-) ด้านที่อยู่อาศัย จำนวน 972 ครัวเรือน ส่งต่อภาคีพัฒนา (อปท.ในพื้นที่,พมจ.,สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด) พิจารณาให้การช่วยเหลือ
     (-) ด้านน้ำดื่ม/น้ำใช้ จำนวน 320 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ อปท.ในพื้นที่พิจารณาแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านการศึกษา จำนวน 342 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ กศน.อำเภอโนนสะอาด พิจารณาช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านรายได้และอาชีพ จำนวน 616 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ภาคีพัฒนา(เกษตร,ปศุสัตว์,ประมง,พัฒนาชุมชน,อปท.ในพื้นที่) บูรณาการให้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านความปลอดภัย จำนวน 237 ครัวเรือน มอบภารกิจให้ปกครองอำเภอโนนสะอาด/สภ.โนนสะอาด บูรณาการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
     (-) ด้านกลุ่มเปราะบาง จำนวน 112 ครัวเรือน มอบภารกิจให้หน่วยงานสาธารณสุข พิจารณาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด  ประชาสัมพันธ์โดย : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานีมิตรภาพดีๆ ที่โนนสะอาดChange for Good ชาลิสา ชมภูราษฎร์ส.ปชส.อุดรธานี

 

ข่าวแนะนำ

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ

 


ญาติผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมหลังโดน ร.ต.อ.ไถเงินเติมน้ำมันรถพาผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลญาติผู้ต้องหา ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี หลังโดนตำรวจยศ ร.ต.อ. พนักงานสอบสวน สภ.กลางใหญ่ รีดไถเงินเติมน้ำมันรถส่งผู้ต้องหา “ขับเสพ” ไปส่งฟ้องศาล แถมยังบังคับยืมเงินอ้างนำไปซื้อเบียร์ฝากอัยการ แต่พอไปทวงถามเงินกลับบ่ายเบี่ยง เพิกเฉย แถมยังโดนข่มขู่ซ้ำ จึงมาขอความเป็นธรรม เพราะแค่ประชาชนที่หากินด้วยการรับจ้าง ยังถูกขูดรีด และข่มขู่ หากปล่อยให้อยู่ในพื้นที่เกรงว่าจะได้รับอันตราย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันเสารฺที่ 29 เมษายน 2565 ที่ว่าการอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี น.ส.สมภาร อินทนีย์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่164 หมู่ 8 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ น.ส.ดาหวัน นาคูณ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 1 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ น.ส.บัวเรียน วงษ์ดี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 8 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มายื่นหนังสือต่อนายวิมล สุรเสน นายอำเภอบ้านผือ เพื่อร้องเรียนตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สังกัด สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการรีดไถค่าน้ำมันรถ จากญาติผู้ต้องหา เพื่อนำผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลจังหวัดอุดรธานี และยืมเงินแล้วไม่จ่ายคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
.

น.ส.สมภาร เล่าว่า พวกตนทำงานรับจ้างกรีดยาง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 ลูกของพวกตนถูกตำรวจสืบสวน สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จับข้อหา “ขับเสพ ” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนยศ ร.ต.อ. ดำเนินคดี โดยเช้าวันที่ 12 เมษายน 2565 พนักงานสอบสวนจะนำตัวทั้ง 3 คนส่งฟ้องศาลจังหวัดอุดรธานี ระยะทาง 75 กม. พวกตนในฐานะญาติผู้ต้องหา จึงขอโดยสารรถควบคุมผู้ต้องหาของโรงพักไปด้วย เพราะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งตำรวจก็อนุญาต โดยผู้ต้องหาทั้งหมดนั่งอยู่ห้องควบคุมด้านหลัง พวกตนเบาะหลังแค๊ป เมื่อขับมาถึงตัวอำเภอบ้านผือ ร.ต.อ.คนดังกล่าวบอกว่า น้ำมันรถหมด พวกตนต้องช่วยกันเติมน้ำมันคนละ 500 บาท พวกตนนึกว่าตำรวจพูดเล่น จึงถามกลับไปว่า “หลวงไม่มีงบให้เติมน้ำมันเหรอ” แต่ตำรวจก็ไม่ตอบ เมื่อขับรถเข้าปั๊มน้ำมัน ก็ยังสั่งให้พวกตนออกเงินค่าน้ำมันอีก พวกตนจึงช่วยเติมน้ำมันคนละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 300 บาท
.

น.ส.สมภาร เล่าต่อว่า เมื่อขับรถมาถึงตัวเมืองอุดรธานี ร.ต.อ.คนเดิม มาขอยืมเงินพวกตนคนละ 1,000 บาท อ้างว่าจะซื้อเบียร์ไปฝากอัยการ พวกตนมีแค่เงินไปเสียค่าปรับให้ลูก แต่สุดท้ายก็ต้องให้ยืมเพราะว่าตำรวจพาขับรถวนในตัวเมืองอุดรธานี 2 รอบ พวกตนอยากให้เสร็จเรื่องโดยเร็ว ตนเองจึงให้เงินไป 900 บาท น.ส.ดาหวัน 500 บาท และ น.ส.บัวเรียน 500 บาท พอได้เงินก็นำไปซื้อเบียร์ 2 ถาด นำไปสำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี โดยให้พวกตนรออยู่หน้าสำนักงานอัยการ ส่วนตำรวจขับรถไปด้านหลังนำเบียร์ไปส่ง จากนั้นก็พาไปกินก๋วยเตี๋ยวพวกตนก็ต้องจ่ายอีก เสร็จแล้วจึงขับรถนำผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลจังหวัดอุดรธานี ซึ่งศาลสั่งปรับคนละ 4,500 บาท ส่วนโทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี ในขณะรอเสียค่าปรับ ตำรวจคนดังกล่าวได้อ้างว่าจะไปทำธุระให้พวกตนกลับบ้านเอง ซึ่งก่อนจะเติมน้ำมันให้ก็บอกว่าจะพากลับโรงพักด้วย เท่ากับว่าทิ้งพวกตน
. ขอขอบคุณแหล่งที่มาภาพและข่าว เึดิด น.ส.พ.เสียงภูภาน


น.ส.สมภาร เล่าต่ออีกว่า พวกตนต้องขอโดยสารรถของญาติผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ใกล้กันกลับบ้าน โดยจ่ายค่าน้ำมันคนละ 200 บาท รวมเป็น 600 บาท วันต่อมาพวกตนได้โทรศัพท์ไปทวงเงินที่ตำรวจยืมไปซื้อเบียร์ให้อัยการ ก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่ได้อยู่โรงพัก ให้มาเอาหลังสงกรานต์ แต่พอลูกชายไปเอาที่โรงพักก็ไม่ยอมให้ พวกตนจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เถ้าแก่สวนยางที่พวกตนทำงานด้วยฟัง หลังทราบเรื่องเถ้าแก่ก็โทรไปทวงเงินให้พวกตน ตำรวจก็ยังไม่ยอมคืนเงินให้ และยังโดนข่มขู่อีก พวกตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนเจ้าหน้าที่ของรัฐรีดไถ ยืมเงินแล้วไม่จ่ายคืน เมื่อทวงแล้วยังข่มขู่ ซึ่งพวกตนเป็นประชาชนหาเช้ากินค่ำ รับจ้างกว่าจะได้เงินมา ต้องมาถูกขูดรีดจากเจ้าหน้าที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากนายอำเภอ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจนายดังกล่าวให้ด้วย เพราะหากไปทำกับคนอื่นก็จะเสียใจเหมือนตน
.
นายวิมล สุรเสน นายอำเภอบ้านผือ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านผือ ได้รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการตามข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการบริการในหน่วยงาน อ้างว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งผู้ร้องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก็จะขอตรวจสอบก่อน และจะได้เรียกหัวหน้าหน่วยที่ผู้ถูกร้องเรียนสังกัดอยู่มาพูดคุย หาวิธีหาทางออก และแก้ไขปัญหาพ.ต.อ.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย ผกก.สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ยังไม่ได้รับหนังสือจากทางอำเภอ หากได้รับหนังสือ ก็จะต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นเรื่องจริง ก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน สอบถามข้อเท็จจริงจากบุคคลข้างเคียง และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยปกติผู้ถูกร้องจะเป็นคนเอาใจใส่งานดี แต่จะทำงานเชื่องช้า ไม่กระตือรือร้น แต่ก็ไม่เคยถูกร้องเรียนในการปฏิบัติหน้าที่
ดูคลิปวีดีโอ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวแนะนำ



ร.ต.สมควร บุญประคม รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายดนัย ขาวขำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ นาง อรวรรณ เชื้อกลางใหญ่

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565 เมื่อเวลา 09.00  น. ร.ต.สมควร บุญประคม รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายดนัย ขาวขำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ นาง อรวรรณ เชื้อกลางใหญ่ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอบ้านผือ นายอัมพร นนทพันธ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขตอำเภอน้ำโสม และเป็นตัวแทน นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 8 ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมจับปลาการกุศล และตรวจติดตามผลผลิตโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ณ บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะบ้านหนองแวงใหญ่ ตำบลหนองแวง และหนองแวงน้อย ตำบลกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี สำหรับแหล่งน้ำนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ สำนักงานประมงจังหวัดอุดรธานี นำพันธุ์สัตว์น้ำจืด นานาชนิด มาปล่อยในแหล่งน้ำสาธารณะหลายพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ช่วงปี 2559 เป็นต้นมา สำหรับชนิดสัตว์น้ำที่ประชาชนจับได้ในครั้งนี้ ได้แก่ ปลาช่อน ปลาบู่ ปลาไน ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลานิล ปลายี่สกเทศ ปลานวลจันทร์ กุ้งก้ามกราม ปลากระโห้ และปลากด  ซึ่งมีหลายกลุ่ม หลายครอบครัวได้ปลาน้ำหนักรวมกันมากกว่า 10 กิโลกรัม สร้างความดีใจเป็นอย่างมาก#จังหวัดอุดรธานี #อุดรธานี #อบจ.อุดรธานี #องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี #ท้องถิ่นอุดรธานี #ข่าวอุดรธานี 

 ข่าวที่น่าสนใจ

ไทยบ้านผือนิวส์

บ้านนาสีนวลนิวส์

วราภารณ์นิวส์


 

 


 

 

 

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า
ห้องภาพดีเจจ๊ะเอ๋บ้านผือ
ห้องภาพดีเจจ๊ะเอ๋บ้านผือ
ห้องภาพดีเจจ๊ะเอ๋บ้านผือ