หมอชลน่าน ยันฝ่ายค้านจะล้มรัฐฯ ตามกระบวนการรัฐสภา ไม่ทราบปมซื้อเสียงในสภาฯ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยัน นายกฯ สำรอง กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ หากพ้นตำแหน่ง ต้องเลือกในบัญชีก่อน ยอมรับดีลพรรคเล็ก พรรคร่วมรัฐบาลเรื่อยๆ ปมโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ทราบข่าวซื้อเสียงในสภา 5-30 ล้าน
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกรัฐมนตรีสำรอง ว่า หากนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง หรือพ้นกรณีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี จะต้องมีนายกฯ รักษาการ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หรือ นายวิษณุ เครืองาม เว้นแต่พ้นจากตำแหน่งแล้ว ต้องให้ปลัดแต่ละกระทรวงรักษาการแทน แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีสำรองไม่ได้มีบัญญัติไว้ในกฎหมาย หากพ้นจากตำแหน่ง การเลือกนายกฯ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือเลือกจากบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอก่อน โดยขณะนี้มี 5 คน หากเลือกไม่ได้ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีตาม มาตรา 272 วรรคสอง ใช้เสียง 2 ใน 3 เปิดช่องทางนี้ ใช้คนนอกบัญชีรายชื่อที่มี ซึ่งหาก พล.อ.ประวิตร จะเข้าข่ายเป็นนายกรัฐมนตรีสำรองหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการตามที่ได้อธิบายไป
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงการดีลกับพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็ก หลังมีภาพนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกลุ่ม 16 และนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมรับประทานอาหารค่ำเมื่อวานนี้ ว่าการแสวงหาส่วนร่วมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เฉพาะเสียงของฝ่ายค้าน 208 ไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องที่ใช้กลไกทุกอย่าง เพื่อให้ได้เสียงมากพอเพียงสำหรับการไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีอีก 30 เสียง โดยใช้ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อโน้มน้าวให้ ส.ส. ที่ทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ตัดสินใจ ส่วนจะได้เสียงมาสนับสนุนมากน้อยเท่าใด ยังไม่สามารถชี้ชัดได้แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยหารือกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ยอมรับว่า ได้ยินข่าวกรณีการล้มนายกรัฐมนตรีในการซื้อเสียง ส.ส.ในสภาฯ 5-30 ล้านบาท แต่ไม่ทราบว่าคนปล่อยข่าวมีวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งยืนยันว่าฝ่ายค้าน จะล้มนายกฯ ในกระบวนการของรัฐสภา ไม่ใช้วิธีการอื่น และเชื่อมั่นว่าเสียง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่มาหนุนในญัตติของพรรคการเมืองฝ่ายค้านเพื่อต้องการกู้วิกฤติศรัทธาทางการเมือง.
